ข่าวประชาสัมพันธ์

ในปี 2567 นี้ นอกจากจะมี โรคติดต่อที่แพร่ระบาดอย่างแน่นอน 3 โรคแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไข้เลือดออก โควิด19 ไข้หวัดใหญ่ ที่เราคุ้นหูกันอย่างดี และนอกจากสามโรคดังกล่าว เรายังต้องเฝ้าระวังอีก 12 โรค ดังนี้

โรคมือเท้าปาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่ของโรคมือเท้าปาก คือ เด็กเล็กที่อยู่ในชั้นวัยเรียนในระดับอนุบาล ขณะเดียวกันผู้ใหญ่ก็มีโอกาสป่วยได้เช่นกัน

โรคหัด ในปี 2567 คาดการณ์ผู้ป่วยจำนวน 1,089 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีผู้ป่วย 611 คน

โรคฝีดาษลิง (Mpox) ปี 2567 คาดว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงสุดในช่วงเดือน ต.ค.นี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับคนแปลกหน้า

โรคไข้ดิน กลุ่มเสี่ยงคือเกษตรกร ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

โรคฉี่หนู คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วย 2,800 คน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ

โรคไข้หูดับ หากทำงานเกี่ยวข้องกับหมู หรือชิ้นส่วนหมูสด ต้องสวมถุงมือยาง รองเท้าบู๊ท และในขณะเดียวกัน สำหรับการรับประทานต้องรับประทานเฉพาะเนื้อหมูที่ปรุงสุก

โรคติดเชื้อไวรัสซิกา ปี 2567 คาดว่าโรคจะระบาดอย่างหนัก และจะพบผู้ป่วยเพิ่มสูงสุดในช่วงเดือน ก.ค.นี้ ในปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยสะสม 758 คน จำนวนนี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ 41 คน ส่งผลให้ลูกที่คลอดมามีศีรษะเล็กมากถึง 13 คน

โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิคุนกุนยา ปี 2567 สถานการณ์การระบาด ยังขึ้นอยู่กับการป้องกันตนเองของประชาชน

โรคซิฟิลิส ปี 2567 คาดว่าจะมีผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว แนะนำผู้หญิงตั้งครรภ์ทุกราย ที่ฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ ควรพาสามี หรือคู่ครอง ไปตรวจคัดกรองหาเชื้อซิฟิลิส เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารกในครรภ์

โรคหนองใน ซึ่งการระบาดคาดว่าจะเพิ่มสูงในช่วงเดือน ม.ค. นี้ จากนั้นจะลดลงไปเรื่อยๆ
ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ

 โรคเอชไอวี เอดส์ ประเทศไทยมีแนวโน้มผู้ป่วยที่ลดลง แต่ยังพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอยู่อีกจำนวนมาก คาดว่าจะมีผู้ป่วย 9,366 คนที่เพิ่มขึ้น และยังจะมีผู้ป่วยสะสมเสียชีวิตอีกประมาณ 10,014 คน HIV กับ เอดส์ ต่างกันอย่างไร?

โรควัณโรค มีแนวโน้มจะพบผู้ป่วยรายใหม่ และผู้ป่วยกลับมาป่วยซ้ำเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปี 66 สำหรับผู้ที่มีอาการไอติดต่อกันนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ รวมถึงไอแบบมีเสมหะปนเลือด และน้ำหนักลดลง ควรรีบไปพบแพทย์

ด้วยความห่วงใยจากศิครินทร์ ให้ทุกท่านหมั่นตรวจเช็กอาการความผิดปกติของร่างกายเสมอ เพื่อป้องกัน 12 โรค ดังกล่าว หากพบความผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที

 

 

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ได้เกิดการระบาด ของเชื้อโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่มีความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่องอาทิเช่น โรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส โรคไข้สมองอักเสบนิปาห์โรคอีโบลา เป็นต้น โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยเสี่ยงหลายๆด้าน ทั้งที่เกิดจากปัจจัยตามธรรมชาติ และที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งยังอาจเกิดจากการจงใจกระทำให้เกิดขึ้น นอกจากนั้นการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ ก็ยิ่งทำให้ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดข้ามประเทศข้ามทวีปเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ด้วยเหตุนี้จึงเกิดกระแสการตื่นตัวของทุกภาคส่วนทุกระดับ ทั้งในระดับพื้นที่ ระดับชาติและนานาชาติ ในการเตรียมความพร้อมที่จะป้องกันและควบคุมมิให้โรคที่เกิดขึ้นใหม่แพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง

ดังนั้น เพื่อพัฒนาศักยภาพในการป้องกันควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่และมาตรฐานการดำเนินงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานอยู่ในหน่วยต่างๆ ซึ่งจะเป็นกลไกที่สำคัญในการจัดการปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการจัดทำหนังสือรวบรวมองค์ความรู้ทางวิชาการ (Fact sheet)เพื่อสนับสนุนให้แก่บุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ สำหรับนำไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นในการปฏิบัติงานเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่ในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ผู้จัดทำยินดีน้อมรับข้อเสนอแนะจากท่านผู้อ่านต่อไป

กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจ

โรคติดเชื้อไวรัสฮานตา (HANTAVIRAL DISEASES)
โรคไข้หวัดใหญ่ (INFLUENZA, SEASONAL) 
โรคไข้หวัดนกและไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ชนิดอื่น (INFLUENZA, AVIAN)
โรคลีเจียนแนร์ (LEGIONELLOSIS) 
กาฬโรค (PLAGUE)
โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือโรคซาร์ส (SEVERE ACUTE RESPIRATORY SYNDROME; SARS)

กลุ่มอาการไข้สมองอักเสบและโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

กลุ่มอาการโรคทางเดินอาหาร
กลุ่มอาการไข้ไม่ทราบสาเหตุ
กลุ่มโรคที่อาจเกิดจากการก่อการร้ายทางอาวุธชีวภาพ (Bioterrorism)
กลุ่มไข้ตัวเหลือง

 

ประชาสัมพันธ์ นวัตกรรมการบริหารจัดการขยะ องค์กรปกครองท้องถิ่นต้นแบบ จังหวัดอุบลราชธานี ( ธนาคารความสุข จังหวัดอุบลราชธานี )

9.2การบริหารงานและงบประมาณ